วันเสาร์ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564

ข้าวสาลีซ่อนวอก

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด  ช่วงนี้ข้าพเจ้า wfh เป็นหลัก ทำให้มีเวลาอยู่กับแม่มากขึ้น แม่มักจะเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับวิถีชีวิตในอดีตให้ฟัง ซึ่งเป็นชีวิตและเรื่องราวต่างๆ เกี่ยวกับวิถีชีวิตในชนบท

เรื่องนี้ถ้าไม่บันทึกไว้ก็คงจะสูญหายไปกับกาลเวลา จนเราก็อาจไม่รู้ว่าเคยมีสิ่งนี้อยู่ การถูกกลืนกินด้วยกระแสของวัฒนธรรมสมัยใหม่ เมื่อใดที่เราเปิดรับสิ่งใหม่ๆ การลืมตัวจนในอดีตของเราก็คงจะมีตามไปด้วยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ บล็อกนี้ได้กลับมาถ่ายทอดเรื่องราวเหล่านี้เพื่อเป็นบันทึกให้แก่คนรุ่นหลักอีกครั้ง


          เนื่องด้วยเวลานี้ข้าพเจ้ามักจะใช้ชีวิตอยู่ในภาคเกษตรกรรมเป็นหลักทำให้เห็นหลายสิ่งหลายอย่าง และทำให้รู้ซึ้งถึงปัญหาที่ฝังรากลึกอยู่ในวิถีเกษตรกร ซึ่งถ้าไม่ลงมาสัมผัสเองก็คงจะไม่รู้เท่านี้  ข้าพเจ้าปลูกข้าวโพดกินเอง ซึ่งทางเหนือจะเรียกข้าวโพดว่าข้าวสาลี ข้าพเจ้าลงมือปลูกเองแต่แม่ไม่ได้เก็บเมล็ดพันธ์ไว้ จึงต้องซื้อเป็นซองที่เขาขายในร้านขายเครื่องมือทางการเกษตร ต่อมาก็นำเมล็ดพันธ์ูนั้นมาปลูกต่อ ผลที่ได้คือฝักไม่สมบูรณ์ ทำให้เวลาปลูกจะต้องซื้อเมล็ดพันธ์ูใหม่ทุกครั้ง แบบนี้น่าจะเรียกว่าการตัดต่อทางพันธูกรรมแบบที่เคยได้ยินมากระมัง ข้าพเจ้าไม่ได้เรียนจบด้านเกษตร เพียงแต่ชอบปลูกเป็นงานอดิเรกและเพื่อออกกำลังกายเท่านั้น

          แม่เล่าให้ฟังว่าสมัยก่อนมีข้าวโพดทรงกลม ฝักจะถูกหุ้มด้วยกาบใบ มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว เมล็ดมีหลายสี เช่น สีดำ สีขาว สีเหลือง เรียกว่าข้าวสาลีซ่อนวอก หรือข้าวสาลีอ้ม  ขนาดไม่ใหญ่มากเท่ากำปั้น ต้นสูงเท่ากับข้าวโพดทั่วไป ตอนนี้หาดูไม่ได้แล้ว แม้แต่ภาพในอินเตอร์เน็ตก็ไม่มี 

           การสูญพันธ์ูของพันธ์พืชพื้นเมืองมาพร้อมกับการไหลบ่าของปุ๋ยเคมี และยาฆ่าแมลงที่เราคิดว่ามันคือสิ่งทันสมัย เกษตรกรเพาะปลูกเพื่อปากท้องและเศรษฐกิจ การขายข้าวโพดตามท้องตลาดก็คงจะเลือกเอาฝักที่สามารถขนส่งง่าย ให้ผลผลิตสูงและคงต้องมีเป้าหมายเพื่อส่งออก ไม่มีใครปลูกเพียงเพื่อใช้กินแบบอดีต เมล็ดพันธุ์เหล่านี้คงสูญหายไปพร้อมกับรากเหง้าของวิถีชีวิตที่ไม่มีทางเรียกกลับคืนมาได้

           ถ้าคนเรารู้คิดว่าตายไปก็ไม่สามารถเอาอะไรติดตัวไปได้ หากตระหนักได้ดังนี้การเพาะปลูกเพื่อเศรษฐกิจเพียงอย่างเดียวแบบที่เราเป็นอยู่นี้คงจะลดลง สวนของเราอาจไม่กว้างใหญ่มาก แต่ปลูกพืชทุกชนิดเท่าที่สามารถมีกำลังจะหามาปลูกได้ แต่ที่น่าเสียดายคือ ข้าพเจ้าเริ่มช้าไป จึงถ่ายทอดได้เพียงตัวอักษรจากความทรงจำที่ยังคงสดใสของแม่ได้เพียงเท่านั้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น