จะไปเที่ยวอ.จอมทองไปดูลิ้งเว็บนี้ดีกว่ามีครบถ้วนและบรรยายค่อนข้างละเอีอดค่ะ เว็บอินทนนท์ดอทคอม
น้ำตกในอ.จอมทอง
1. น้ำตกแม่ยะ จากทางแยกเข้าทางหลวง 1009 ไปประมาณ 1 กิโลเมตร เลี้ยวซ้ายเข้าไป 14 กิโลเมตร และต้องเดินเท้าเข้าไปอีก 200 เมตร
2.น้ำตกแม่กลาง จากทางแยกเข้าทางหลวง 1009 ไปอีก 8 กิโลเมตร แยกซ้าย 500 เมตร เป็นทางลาดยางตลอด
3.น้ำตกแม่เตี๊ยะ อยู่ที่ตำบลดอยแก้ว อำเภอจอมทอง จากเชียงใหม่โดยรถยนต์ไปตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 108 ถึงอำเภอจอมทอง เลี้ยวขวาข้างที่ว่าการอำเภอ หรือเลี้ยวขวาข้างวัดสบเตี๊ยะ มีระยะทางโดยรวม 15 กิโลเมตร
4.น้ำตกวชิรธาร เดิมชื่อ ตาดฆ้องโยง จากเชิงดอยอินทนนท์ขึ้นไปถึงกิโลเมตรที่ 21 จะเห็นป้ายบอกทางแยกขวาเข้าน้ำตก ลงไป 500 เมตร ถนนจะถึงที่ตัวน้ำตก อีกเส้นทางหนึ่งซึ่งเป็นเส้นทางเดิมอยู่เลยจาก ทางแยกแรกไปประมาณ 1 กิโลเมตร เลี้ยวขวาตามป้ายและเดินจากลานจอดรถ ลงไปอีก 351 เมตร หากใช้เส้นทางนี้จะได้สัมผัสกับงามของธรรมชาติรอบด้าน ตลอดทางเดิน
5.น้ำตกสิริภูมิ (เป็นน้ำตกสองสายตกจากผาสูง เดิมเรียกน้ำตกนี้ว่าน้ำตกสองพี่น้อง ตั้งอยู่โครงการหลวงขุนกลาง สวยงามอย่างมาก)
6.น้ำตกสิริธาร เป็นน้ำตกซึ่งไหลมาจากหน้าผาสูงชัน เป็นทางยาวสวยงามมาก สามารถมองเห็นได้จากถนนขึ้นดอยอินทนนท์ตรงที่ทำการอุทยานฯ จะเห็นเป็นสายน้ำตกแฝดไหลลงมาคู่กันแต่เดิมเรียกว่า เลาลี ตามชื่อของหมู่บ้านม้ง (แม้ว) เลาลี ซึ่งอยู่ใกล้ๆ น้ำตก น้ำตกสิริภูมิตั้งอยู่ตรงกิโลเมตรที่ 31 ของทางหลวงหมายเลข 1009 มีทางแยกขวามือเข้าไปอีกประมาณ 2 กิโลเมตร แต่รถไม่สามารถเข้าไปใกล้ตัวน้ำตกได้ นักท่องเที่ยวต้องเดินเท้าเข้าไปบริเวณด้านล่างของน้ำตก จากเชียงใหม่ใช้ทางหลวงหมายเลข 108 (เชียงใหม่-จอมทอง) ก่อนถึงอำเภอจอมทองเลี้ยวขวาตามทางหลวงหมายเลข 1009 (จอมทอง-ยอดดอย) ถึงกิโลเมตรที่ 31 มีทางแยกขวามือก่อนถึงที่ทำการอุทยานฯ เล็กน้อย เป็นลาดยางเข้าไปถึงน้ำตกสิริภูมิ ระยะทาง 8 กิโลเมตร
7.น้ำตกแม่ปาน (ตั้งอยู่เขตกิ่วแม่ปานเส้นทางศึกษาธรรมชาติดอยอิทนนท์) จากที่ว่าการอำเภอแม่แจ่มประมาณ 16 กิโลเมตร แยกจากทางหลวงหมายเลข 1009 ตรงด่านตรวจกิโลเมตรที่ 38 ไปตามเส้นทางสายอินทนนท์-แม่แจ่ม (ทางหลวงหมายเลข 1192) ประมาณ 6 กิโลเมตร จะมีป้ายบอกทางไปน้ำตก แยกเข้าไปอีก 9 กิโลเมตร เป็นทางลูกรัง
8. น้ำตกทรายเหลือง อยู่บริเวณเชิงดอยอินทนนท์ ห่างจากที่ว่าการอําเภอแม่แจม ระยะทางประมาณ 16 กิโลเมตร น้ำตกแม่ปานการเดินทางจากทางหลวงหมายเลข 1009 ตรงด่านตรวจกิโลเมตรที่ 38 ไปตามเส้นทางสายอินทนนท์-แม่แจ่ม(ทางหลวงหมายเลข 1192) ประมาณ 6 กิโลเมตร จะมีป้ายบอกทางไปน้ำตกแยกเข้าไปอีก 9 กิโลเมตร จะถึงที่จอดรถ ซึ่งทางอําเภอได้ทําป้ายไว้สําหรับอํานวยความสะดวกแก่นักทองเที่ยว จากนั้นจะต้องเดินทางไปตามทางเดินอีกประมาณ 10 นาทีจึงจะถึงตัวน้ำตกแม่ปาน
-ถ้ำ้บริจินดา ตั้งอยู่บริเวณกิโลเมตรที่ 8.5 ของทางหลวงหมายเลข 1009 จะเห็นทางแยก ขวามือมีป้ายบอกทางไปถ้ำบริจินดา ภายในถ้ำมีความลึกหลายกิโลเมตร ใกล้กับน้ำตกแม่กลาง
-ดอยหัวเสือ อยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของที่ทำการอุทยานฯเส้นทางนี้เป็นเส้นทางนัก เดินทางที่ค่อนข้างยาว เป็นการเดินทางขึ้นลงเขาเส้นทางจะเป็นแบบ One Way ไม่ย้อนกลับทางเดิม หน้าฝนมีทาก
-ถ้ำตุ๊ปู่ อยู่ในท้องที่ตำบลแม่สอย อำเภอจอมทอง เป็นถ้ำหินปูนขนาดเล็ก ปากถ้ำแคบ กว้างยาวประมาณ 1x1.5 เมตร ต้องนั่งยองๆเข้าไป ภายในกว้างขวางรูปร่างค่อนข้างกลมเหมือนคนโทขนาดใหญ่ มีน้ำหยดจากเพดานถ้ำตลอดเวลา ทำให้เกิดหินงอกหินย้อยอยู่ทั่วไป ตรงเพดานค่อนข้างไปทางก้นถ้ำทะลุเป็นวงกลมใหญ่ๆ 3 ช่องติดกัน จึงทำให้ถ้ำสว่างไสวไม่มืดทึบเหมือนถ้ำโดยทั่วไป
-กิ่วแม่ปาน เป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติบนดอยอินทนนท์ ทางเข้าอยู่กิโลเมตรที่ 42 ด้านซ้ายมือ ระยะทางเดิน 3 กิโลเมตร ระหว่างทางเดินจะพบป่าดิบเขา (Hill Evergreen) ก่อนผ่านเข้าสู่ทุ่งหญ้าซึ่งเคยเป็นพื้นที่ป่าถูกทำลายหลังจากนั้นทางเดินจะเลาะริมผา สองข้างจะพบดอกกุหลาบพันปี หรือ Rhododendron บานช่วงเดือนธันวาคม-กุมภาพันธ์ การใช้เส้นทางนี้ต้องลงทะเบียนขอรับใบอนุญาตให้ใช้เส้นทางจากหัวหน้าอุทยานฯ และควรจัดกลุ่มละไม่เกิน 15 คน ไม่อนุญาตให้เข้าไปท่องเที่ยวตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน ถึงวันที่ 30 ตุลาคม ของทุกปี
- น้ำตกแม่จอนอยู่ในเขตตำบลบ้านแปะ อำเภอจอมทอง จากทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 108 สายฮอด-แม่สะเรียง ตรงกิโลเมตรที่ 9 เดินตามลำห้วยแม่จอนเข้าไปประมาณ 1 กิโลเมตร ก็จะถึงน้ำตกสูงใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่
-ถ้ำตอง อยู่ตำบลบ้านแปะ "ดอยผาเลียบ" เป็นภูเขาหินแกรนิตและหินปูนที่มีรูปร่างเหมือนถูกผ่าครึ่งแล้วแยกกันอยู่คน ละฝั่งลำน้ำแม่แปะ ซีกที่อยู่ทางฝั่งขวามีถ้ำลึกที่มีตำนานว่า ถ้ำนี้เป็นอุโมงค์หินที่มีความยาวทะลุถึงดอยเชียงดาว บริเวณปากอุโมงเป็นคูหา สูง 3 เมตร ลึกเข้าไปจากนั้นเป็นโพรงหินเล็กๆขนาดพอตัวคนคลานเข้าไปได้ สภาพภายในคูหาปากถ้ำถูกสกัดตกแต่งใช้เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมของสำนัก วิปัสสนาถ้ำตอง ต้นแม่น้ำแปะห่างจากถ้ำตองขึ้นไปประมาณ 1 กิโลเมตรมีน้ำตกเล็กๆ เรียกว่า น้ำตกวังคำ
- วัดพระธาตุดอยน้อย วัดพระธาตุดอยน้อย เป็นวัดโบราณที่เก่าแก่อายุกว่า 1,300 ปี และมีประวัติว่าก่อสร้างโดยพระนางจามเทวี เมื่อปี พ.ศ. 1201 วัดพระธาตุดอยน้อยมีโบราณสถานและโบราณวัตถุมากมาย ได้แก่ พระบรมธาตุ โขงพระ (กรุพระ) โบสถ์ วิหารและพระพุทธรูปหินอ่อนแกะสลัก ทั้งองค์เล็กองค์ใหญ่มากมาย บริเวณวัดตั้งอยู่บนภูเขา ติดลําน้ำปิง มองเห็นทิวทัศน์โดยรอบทุกทิศ ทุกทาง ดูแล้วสวยงาม วัดพระธาตุดอยน้อยตั้งอยู่ที่ตําบลดอยหล่อ อําเภอจอมทอง การเดินทางไปตามทางหลวงหมายเลข 108 ตรงกิโลเมตรที่ 43-44 วัดพระธาตุดอยน้อย
- วัดพระธาตุศรีจอมทองวรวิหาร
อำเภอจอมทอง
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
|
อำเภอจอมทองมีภูมิศาสตร์ที่เอื้ออำนวยในการรองรับความเจริญจากเมือง เชียงใหม่ ปัจจุบันอำเภอจอมทองเป็นอำเภอศูนย์กลางความเจริญทุกๆ ด้านในเขตเชียงใหม่ตอนใต้และทางตอนใต้ของจังหวัดลำพูนรวมถึงทางตอนใต้ของ จังหวัดแม่ฮ่องสอน อำเภอเจอมทองป็นศูนย์การศึกษา มีมหาวิทยาลัย 3 แห่ง วิทยาลัยการอาชีพ 1 แห่ง มีโรงเรียนมัธยมศึกษาและโรงเรียนประถมศึกษาที่ใหญ่ที่สุดในเขตพื้นที่ เชียงใหม่ตอนใต้ ในด้านการสาธารณสุข มีโรงพยาบาลจอมทองเป็นโรงพยาบาลที่ใหญ่ที่สุดในเชียงใหม่ตอนใต้ ด้านการท่องเที่ยวอำเภอจอมทองมีแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญและมีชื่อเสียง ได้แก่ ยอดดอยอินทนนท์จุดที่สูงสุดของประเทศและน้ำตกต่างๆ ในเขตอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ วัดพระธาตุศรีจอมทองวรวิหาร พิพิธภัณฑ์ผ้าป้าแสงดาที่บ้านไร่ไผ่งามและแหล่งผ้าฝ้ายทอมือในเขตตำบลสบเตี๊ ยะ อุทยานแห่งชาติออบหลวง รวมถึงประเพณีแห่ไมค้ำโพธิ์ในช่วงสงกรานต์ เป็นต้น ในด้านการพาณิชย์ การค้า การลงทุน อำเภอจอมทองมีการพัฒนาและขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้า โรงแรม รีสอร์ท อสังหาริมทรัพย์ ปัจจุบันมีสถานประกอบการในจอมทองมากกว่า 1,000 แห่ง อำเภอจอมทองนับว่าเป็นเมืองที่มีความเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว นับเป็นเมืองสำคัญในแง่ของเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ [1]
[แก้] ประวัติ
- ตำนานก่อนพุทธกาลก่อนมาเป็นเมืองจอมทอง
- ความเป็นมาแห่งพระบรมธาตุเจ้าในกาลต่อมา
- ถึงปีขาล เดือน 3 ใต้ เดือน 5 เหนือ พญาสามล้านไชยสงครามได้มีจิตศรัทธามาใส่ช่อฟ้า ปั้นลมวิหารวัดพระธาตุศรีจอมทอง และสร้างถนนจากวัดไปถึงฝั่งน้ำปิงและถวายคนไว้เป็นข้าพระรัตนตรัย ลงอาญาหาบเงินตราหินไว้เป็นหลักฐาน
- ถึงปี พ.ศ. 2112 พระเจ้ามังธาเจ้าหงสาวดี (พระเจ้าบุเรงนองกะยอดินนรธา) พระเจ้าแผ่นดินพม่า ได้ยกทัพมาปราบล้านนาไทยเชียงใหม่ใว้ในอำนาจ ได้ริบเอาทรัพย์ของพระศาสนาไปและ บ้านเมืองเชียงใหม่ก็ตกเป็นเมืองขึ้นของพม่า
- ถึงพ.ศ. 2182พระเจ้าสุทโธธรรมราชา พระเจ้าแผ่นดินพม่าได้ตกแต่งเคริ่องวัตถุไทยทาน มาถวายบูชาพระบรมธาตุเจ้าจอมทอง ตามเยี่ยงอย่างเจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่หากได้เคยถวายทานมาแล้วแต่หนหลัง
- ถึง พ.ศ. 2314 ปีขาล โทศก เดือน 5 แรม 11 ค่ำ วันจันทร์ พระบรมธาตุเจ้าองค์ประเสริฐก็อันตรธานสูญหายไป นับแต่นั้นมาถึงปีมะแมศก จุลศักราชล่วงได้ 1136 พ.ศ. 2318 กษัตริย์เมืองอยุธยา ยกพลโยธา มารบกับพม่าที่เมืองนครเชียงใหม่ได้ชัยชนะแล้วยกพลไปสู่นครหริภุญชัย นมัสการพระธาตุหริภุญชัยแล้ว จึงแต่งตั้งให้พระยาจ่าบ้านเป็นผู้ครองนครเชียงใหม่ได้รับบรรดาศักดิ์เป็น พระยาวิเชียรปราการ เมืองเชียงใหม่จึงได้หลุดจากพม่ามาขึ้นกับไทยกลางส่วนใหญ่ตลอดมาจนทุกวันนี้
- ถึง พ.ศ. 2322 พระยาวิเชียรปราการ เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ได้มาคำนึงถึงพระบรมธาตุเจ้าจอมทององค์ประเสริฐ อันได้สูญหายไปแต่ พ.ศ. 2314 นั้น จึงได้ให้นายช่างทองสร้างโกศเงินและโกศทองคำ เพื่อจะได้นำไปเป็นที่บรรจุพระบรมธาตุเจ้า แล้วจึงรับสั่งอำมาตย์ทั้งหลาย ไปทำพิธีอาราธนาอัญเชิญพระบรมธาตุเจ้าตามราณประเพณีเป็นครั้งแรกก่อน พระบรมธาตุก็ยงไม่เสด็จมา และ ได้อาราธนาอีก 2 ครั้ง จนถึงแรม 4 ค่ำเวลาก๋องงาย ( 19.00 น) พระบรมธาตุเจ้า ก็ได้เสด็จมาปรากฏในคูหาปราสาท ตามคำอธิษฐาน จากนั้นพระยาวิเชียรปราการเจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ได้อัญเชิญพระบรมธาตุเข้า ไปในเมืองเชียงใหม่ ทำการสระสรง และ ถวายทานต่างๆ นาน 7 วัน 7 คืน แล้วจึงได้อัญเชิญพระบรมธาตุเจ้ากลับคืนไปประดิษฐานไว้ที่วัดพระธาตุศรีจอม ทองตามเดิม
- หลังจากนั้นก็มีกษัตริย์และเจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่อีกหลายพระองค์ได้มา บูรณะปฏิสังขรณ์วัดพระธาตุศรีจอมทอง รวมไปถึง การสร้างโกศเงินโกศทอง
- อำเภอจอมทอง มีประวัติความเป็นมาสืบเนื่องเกี่ยวกับตำนานวัดพระธาตุศรีจอมทองวรวิหารเดิม ที่ตั้งวัดพระธาตุฯ เป็นเนินเขาเล็กๆ คล้ายจอมปลวกหรือหลังเต่า มีป่าไม้ทองกวาวและทองหลางอยู่บนเนิน จึงเรียกวา “ดอยจอมทอง”ตามตำนานกล่าวว่า เมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จปรินิพานแล้ว พระเจ้าอโศกมหาราชได้เสด็จมาที่ดอยแห่งนี้ และอัญเชิญพระทักษิณโมลีธาตุพระเศียรเบื้องขวาของพระเจ้า ซึ่งมีขนาดเท่าเม็ดพุทธา รวมพระบรมธาตุย่อยอีกเจ็ดองค์เข้าสู่โกศเพชรและอัญเชิญประดาษฐานไว้ในคูหา ใต้ดอยจอมทอง ในปี พ.ศ. 1994 ได้มีการก่อสร้างวัดขึ้นบนดอยจอมทองแล้วเรียกชื่อว่า “วัดพระธาตุจอมทอง”เมื่อได้ยกฐานะเป็นพระอารามหลวง เมื่อปี พ.ศ. 2506 ได้เปลี่ยนชื่อเป็น “วัดพระธาตุศรีจอมทองวรวิหาร” เมื่อปี พ.ศ. 2443 ทางราชการได้ตั้งอำเภอขึ้นและตั้งชื่อว่า “อำเภอจอมทอง” โดยใช้ชื่อเรียกตามตำนานวัดพระธาตุจอมทอง
[แก้] แนะนำ แหล่งข้อมูล รูปภาพอำเภอจอมทอง
http://www.facebook.com/CT108.CM[แก้] คำขวัญของอำเภอ
"อินทนนท์สูงเด่น ร่มเย็นองค์พระธาตุ น้ำตกสวยสะอาด เชิดชูศาสน์แห่ไม้ค้ำโพธิ์"- อินทนนท์สูงเด่น ดอยอินทนนท์เป็นยอดดอยที่สูงที่สุดของประเทศไทย สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 2565 เมตร ปัจจุบันเป็นสถานที่สำคัญของประเทศ มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศ มาเที่ยวปีละหลายล้านคน เป็นสถานที่ที่งดงาม มีถ้ำ น้ำตก ภูเขา ที่มีชื่อเสียง เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยว อาทิ เช่น น้ำตกแม่กลาง น้ำตกแม่ยะ น้ำตกสิริภูมิ น้ำตกวชิรธาร ถ้าบริจินดา ดอยหัวเสือ กิ่วแม่ปาน เป็นต้น
- ร่มเย็นองค์พระธาตุ วัดพระธาตุศรีจอมทองวรวิหาร เป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองของชาวจอมทองมาช้านาน นับได้ 560 ปี เป็นที่ประดิษฐานของพระบรมสารีริกธาตุของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ปัจจุบันเป็นวัดที่สำคัญวัดหนึ่งของจังหวัดเชียงใหม่ มีพระธรรมมังคลาจารย์ (หลวงปู่ทอง สิริมงฺคโล) ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส ซึ่งท่านเป็นพระอาจารย์สายวิปัสนากรรมฐานที่มีชื่อเสียงเป็นที่เคารพอย่าง สูงจากพุทธศาสนิกชนทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ ทำให้วัดพระธาตุศรีจอมทองเป็นจุดที่พุทธศาสนิกชนเดินทางมาเคารพสักการะกราบ ไหว้พระบรมสารีริกธาตุและปฏิบัติธรรมกับหลวงปู่ท่านเจ้าคุณเป็นจำนวนมากมาย ในแต่ละปี
- น้ำตกสวยสะอาด จอมทองถือว่าเป็นอำเภอที่มีน้ำตกมากที่สุดอำเภอหนึ่งของประเทศ มีน้ำตกน้อยใหญ่ทางทิศตะวันตก ที่มีชื่อเสียง ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ และอุทยานแห่งชาติออบหลวง อาทิ เช่น น้ำตกแม่ยะ (เป็นน้ำตกที่สวยงามแห่งหนึ่งของประเทศมาก่อน) น้ำตกแม่กลาง (น้ำตกขนาดใหญ่ เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวเชียงใหม่และนักท่องเที่ยว) น้ำตกแม่เตี๊ยะ (เป็นน้ำตกที่สูงที่สุดของประเทศไทย) น้ำตกวชิรธาร (เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ มีประกายรุ้งทอแสงสวยงามอย่างมาก) น้ำตกสิริภูมิ (เป็นน้ำตกสองสายตกจากผาสูง เดิมเรียกน้ำตกนี้ว่าน้ำตกสองพี่น้อง ตั้งอยู่โครงการหลวงขุนกลาง สวยงามอย่างมาก) น้ำตกสิริธาร (เป็นน้ำตกที่สวยงาม กำลังเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว) น้ำตกแม่ปาน (ตั้งอยู่เขตกิ่วแม่ปานเส้นทางศึกษาธรรมชาติดอยอิทนนท์) เป็นต้น
- เชิดชูศาสน์แห่ไม้ค้ำโพธิ์ อำเภอจอมทองมีประเพณีที่สำคัญ คือประเพณีแห่ไม้ค้ำโพธิ์ ที่ชาวจอมทองปฏิบัติสืบทอดมายาวนานกว่า 200 ปี นิยมแห่ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ประเพณีแห่ไม้ค้ำโพธิ์ ถือเป็นต้นแบบของการแห่ไม้ค้ำสะหลีของคนภาคเหนือ เริ่มถือปฏิบัติขึ้นเป็นครั้งแรกที่วัดพระธาตุศรีจอมทอง อำเภอจอมทอง ปัจจุบันกลายเป็นประเพณีที่แพร่หลายไปหลายพื้นที่ในอำเภอใกล้เคียงกับอำเภอ จอมทองและจังหวัดต่างๆในภาคเหนือ
[แก้] ที่ตั้งและอาณาเขต
อำเภอจอมทองมีอาณาเขตติดต่อกับอำเภอและจังหวัดใกล้เคียงดังนี้- ทิศเหนือ ติดต่อกับอำเภอแม่วางและอำเภอดอยหล่อ
- ทิศตะวันออก ติดต่อกับอำเภอเวียงหนองล่องและอำเภอบ้านโฮ่ง (จังหวัดลำพูน)
- ทิศใต้ ติดต่อกับอำเภอฮอด
- ทิศตะวันตก ติดต่อกับอำเภอแม่แจ่ม
[แก้] ลักษณะทางภูมิประเทศ
ลักษณะพื้นที่อำเภอจอมทอง ส่วนใหญ่เป็นที่ราบกว้าง ระหว่างริมฝั่งแม่น้ำปิง และน้ำแม่กลาง พื้นที่หุบเขาเชิงเขาทางทิศตะวันตก ซึ่งใช้ประโยชน์ในการทำนา ทำสวน ทำไร่ ปลูกไม้ยืนต้น เช่น ลำไย สำหรับบริเวณภูเขาเป็นแหล่งต้นน้ำลำธารและที่อยู่อาศัยสภาพพื้นที่ พื้นที่สูงทางตอนกลาง ที่ราบลุ่มทางทิศเหนือ และพื้นที่ภูเขาทางทิศตะวันตกของอำเภอ
ภูเขา ด้านตะวันตกมีเทือกเขาอินทนนท์ ซึ่งมียอดเขาที่สูงที่สุดในประเทศไทย คือ สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 2,565.3341 เมตร กั้นเขตแดนระหว่างอำเภอจอมทองและอำเภอแม่แจ่มโดยตลอด
แม่น้ำ มีลำน้ำสำคัญ ได้แก่ ลำน้ำปิง ลำน้ำแม่กลาง ลำน้ำแม่แจ่ม ลำน้ำแม่เตี๊ยะ ลำน้ำแม่แต๊ะ และลำน้ำแม่สอย
[แก้] ลักษณะภูมิอากาศ
ภูมิอากาศพื้นที่อำเภอจอมทอง แบ่งออกได้เป็น 3 ฤดู ได้แก่ - ฤดูฝน เริ่มตั้งแต่กลางเดือนพฤษภาคม จนถึงเดือนตุลาคม โดยได้รับอิทธิพลจาก ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ - ฤดูหนาว เริ่มตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ไปจนถึงกลางเดือนกุมภาพันธ์ โดยได้รับอิทธิพลจาก ลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งพัดพาเอาความหนาวเย็นจากประเทศจีนลงมาปกคลุม ประเทศไทยตอนบน - ฤดูร้อน เริ่มตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ถึงกลางเดือนพฤษภาคม ซึ่งอยู่ภายใต้อิทธิพลของ ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ และลมฝ่ายใต้ สภาพภูมิอากาศโดยทั่วไป อากาศมรสุมเมืองร้อน ช่วง พฤษภาคม - กันยายน มีฝนตกชุก ช่วงเดือนพฤศจิกายน - กุมภาพันธ์ มีอากาศหนาวและแห้งแล้ง อุณหภูมิประมาณ 9.7 องศา สูงสุดประมาณ 39.6 องศา [3][4][แก้] การแบ่งเขตการปกครอง
[แก้] การปกครองส่วนภูมิภาค
อำเภอจอมทองแบ่งเขตการปกครองย่อยออกเป็น 6 ตำบล 100 หมู่บ้าน ได้แก่1. | บ้านหลวง | (Ban Luang) | 23 หมู่บ้าน | |||||
2. | ข่วงเปา | (Khuang Pao) | 12 หมู่บ้าน | |||||
3. | สบเตี๊ยะ | (Sop Tia) | 21 หมู่บ้าน | |||||
4. | บ้านแปะ | (Ban Pae) | 20 หมู่บ้าน | |||||
5. | ดอยแก้ว | (Doi Kaeo) | 9 หมู่บ้าน | |||||
6. | แม่สอย | (Mae Soi) | 15 หมู่บ้าน |
[แก้] การปกครองส่วนท้องถิ่น
ท้องที่อำเภอจอมทองประกอบด้วยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 7 แห่ง ได้แก่- เทศบาลตำบลจอมทอง ครอบคลุมพื้นที่บางส่วนของตำบลบ้านหลวง ตำบลข่วงเปา และตำบลดอยแก้ว
- เทศบาลตำบลบ้านหลวง ครอบคลุมพื้นที่ตำบลบ้านหลวง (นอกเขตเทศบาลตำบลจอมทอง)
- เทศบาลตำบลบ้านแปะ ครอบคลุมพื้นที่ตำบลบ้านแปะทั้งตำบล
- เทศบาลตำบลดอยแก้ว ครอบคลุมพื้นที่ตำบลดอยแก้ว (นอกเขตเทศบาลตำบลจอมทอง)
- องค์การบริหารส่วนตำบลข่วงเปา ครอบคลุมพื้นที่ตำบลข่วงเปา (นอกเขตเทศบาลตำบลจอมทอง)
- องค์การบริหารส่วนตำบลสบเตี๊ยะ ครอบคลุมพื้นที่ตำบลสบเตี๊ยะทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลแม่สอย ครอบคลุมพื้นที่ตำบลแม่สอยทั้งตำบล
[แก้] สถานศึกษา
- มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ วิทยาเขตจอมทอง
- มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา เขตพื้นที่ภาคพายัพ (จอมทอง)
- มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย วิทยาเขตจอมทอง
- วิทยาลัยการอาชีพจอมทอง [1]
- โรงเรียนจอมทอง
- โรงเรียนบ้านแปะ (โรงเรียนขนาดเล็ก ต้นแบบของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ)
- โรงเรียนชุมชนศรีจอมทอง
- โรงเรียนณัทชวิทย์ (โรงเรียนเอกชน การเรียนการสอนแบบนานาชาติ)
- โรงเรียนไชยจีนะวิทยา (โรงเรียนเอกชน)
- โรงเรียนสุทธิวงค์ดำรงวิทย์ (โรงเรียนเอกชน)
- โรงเรียนพุทธนิมิตรวิทยา (โรงเรียนสามเณร เปิดตั้งแต่ระดับ ม.1-ม.6)
- โรงเรียนบ้านสบเตี๊ยะ
- โรงเรียนไทยรัฐวิทยา 79 (โรงเรียนดีประจำตำบล สพฐ.เชียงใหม่ เขต 6)
- โรงเรียนชุนชนบ้านข่วงเปาเหนือ
- โรงเรียนบ้านปากทางท่าลี่
- โรงเรียนบ้านห้วยทราย
- โรงเรียนขุนกลาง
- โรงเรียนบ้านวังน้ำหยาด
- โรงเรียนบ้านโรงวัว
- โรงเรียนบ้านห้วยน้ำดิบ
- โรงเรียนวัดพุทธนิมิตร
- โรงเรียนบ้านดงหาดนาค
- โรงเรียนบ้านโรงวัว
- โรงเรียนบ้ายห้วยน้ำดิบ
- โรงเรียนชุมชนบ้านห้วยทราย
- โรงเรียนบ้านท่าข้าม
[แก้] ธนาคาร
- 1. ธนาคารออมสิน สาขาจอมทอง
- 2. ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาจอมทอง
- 3. ธนาคารกสิกรไทย สาขาจอมทอง
- 4. ธนาคารกรุงไทย สาขาจอมทอง
- 5. ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขาจอมทอง
- 6. ธนาคารกรุงเทพ สาขาจอมทอง
[แก้] ห้างสรรพสินค้าในอำเภอจอมทอง
- เทสโก้โลตัสจอมทอง
[แก้] ร้านค้าสำคัญในตัวอำเภอจอมทอง
- บุ่งฮวดพาณิชย์
- สยามทีวีจอมทอง
- ห้างภู่พิสิฐจอมทอง ศูนย์รวมสิ่งก่อสร้างและสุขภัณฑ์
- สยามทีวีจอมทอง
- บิ๊กวันเซ็นเตอร์ ศูนย์รวมอุปกรณ์การเรียนและเครื่องเขียน
- ปริญญา ศูนย์รวมอุปกรณ์การเรียนและเครื่องเขียน
- ศรีสมบูรณ์ สาขา 1
- ศรีสมบูรณ์ สาขา 2
- พีทีเอส
- ศูนย์เศรษฐกิจชุมชนเมืองกลาง
- ศูนย์โอท็อบลานวัดพระธาตุศรีจอมทอง
- อีซูสุจอมทอง
- เงางาม สาขา 1
- เงางาม สาขา 2
- จอมทองฟาร์มาซี
- เกรียงไกร
- ศูนย์การค้าสมายเพลสจอมทอง (อยู่ในระหว่างก่อสร้าง)
[แก้] ตลาดที่สำคัญ
- ตลาดสดเทศบาลตำบลจอมทอง
- กาดแลงหน้อย
- กาดเจ้าหน้อย
- ตลาดโชคเจริญ
- ตลาดแม่ดวงดีสามแยกขึ้นดอยอินทนนท์
- ตลาดจำหน่ายดอกไม้ พืชผัก ผลไม้เมืองหนาว ผลิตภัณฑ์ของที่ระลึกของหมู่บ้านม้งขุนกลาง หลัก ก.ม.ที่ 33 ถ.จอมทอง - อินทนนท์
- กาดอังคาร ตรงข้ามกับที่ว่าการอำเภอจอมทอง บนศูนย์การค้าสมายเพลส จอมทอง
- กาดพุธ บ้านหนองช้าง และ บ้านห้วยน้ำดิบ
- กาดผัด บ้านสบเตี๊ยะ และ บ้านสบแจ่มฝั้งซ้าย
- กาดศุกร์ หน้าที่ว่าการอำเภอจอมทอง และบริเวณหน้าเทศบาลตำบลบ้านแปะ
- กาดเสาร์ บริเวณบ้านสบเตี๊ยะ
[แก้] การคมนาคม
อำเภอจอมทองตั้งอยู่ทางทิศใต้ของจังหวัดเชียงใหม่ บนถนนสายเชียงใหม่-ฮอด ระยะทางห่างจากเชียงใหม่ 58 กิโลเมตร[5] เส้นทางเชื่อมต่ออำเภอจอมทอง- 1. ทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข 108 จากสามแยกท่าลี่ – สะพานข้ามฮอด ระยะทาง 41 กิโลเมตร (ปัจจุบันมีโครงการขยายถนนเป็น 4 ช่องการจราจรตลอดเส้นทาง ยกเว้น ตัวอำเภอจอมทอง ประมาณ 6 กิโลเมตรซึ่งคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างในปี2554)
- 2. ทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข 1009 จากสามแยกขึ้นดอยอินทนนท์ (จอมทอง) – แม่กลาง ระยะทาง 7.705 กิโลเมตร
- 3. ทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข 1009 0202 จากแม่กลาง – ดอยอินทนนท์ ระยะทาง 38.995 กิโลเมตร
- 4. ทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข 1010 จากท่าลี่ – ป่าซาง ระยะทาง 30 กิโลเมตร
- 5. ทางหลวงชนบท บ้านหนองล่อง – ท่าศาลา
- 6. ทางหลวงชนบท บ้านทุ่งปูน – ท่ามณี
- 7. ทางหลวงชนบท แยกทางหมายเลข 1009 – บ้านเมืองกลาง
- 8. ทางหลวงชนบท บ้านแท่นดอกไม้ – บ้านดงหาดนาค
- 9. ทางหลวงชนบท บ้านสบเตี๊ยะ - บ้านแพะดินแดง
- 10.ทางหลวงชนบท บ้านวังน้ำหยาด - บ้านแม่สอย
- 11.ทางหลวงชนบท บ้านสบแปะ - ถ้ำตอง
- 12.ทางหลวงชนบท บ้านทุ่งปูน-บ้านแม่เตี๊ยะ
[แก้] โครงการพัฒนาอำเภอจอมทอง
- โครงการก่อสร้างขยายถนนเชียงใหม่-ฮอด เป็น 4 ช่องการจราจร ตั้งแต่ หน้าสถานีตำรวจภูธรจอมทอง อ.จอมทอง - สะพานข้ามน้ำแม่แจ่ม อ.ฮอด[6]
- โครงการก่อสร้างหอดูดาวขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชีย บนยอดดอยอินทนนท์ [7]
- โครงการพัฒนาผังเมืองรวมชุมชนจอมทอง [8]
- โครงการสร้างฝายน้ำล้นแม่สอย(ชลประทานขนาดใหญ่)กั้นแม่น้ำปิง โดยใช้ในการอุปโภค บริโภค รวมไปถึงแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่อำเภอจอมทอง อำเภอฮอดและอำเภอดอยเต่า [9]
[แก้] แหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ
- แหล่งดูนกบนดอยอินทนนท์
- กิ่วแม่ปาน
การใช้เส้นทางนี้ต้องลงทะเบียนขอรับใบอนุญาตให้ใช้เส้นทางจากหัวหน้า อุทยานฯ และควรจัดกลุ่มละไม่เกิน 15 คน ทางอุทยานฯไม่อนุญาตให้นำอาหาร เข้าไปรับประทานในเส้นทาง และจะปิดเส้นทางเพื่อให้ธรรมชาติฟื้นตัว ไม่อนุญาตให้เข้าไปท่องเที่ยวตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน ถึงวันที่ 30 ตุลาคม ของทุกปี
- โครงการหลวงอินทนนท์
- ถ้ำบริจินดา
- น้ำตกแม่กลาง
- น้ำตกแม่เตี๊ยะ
- น้ำตกแม่ปาน
- น้ำตกแม่ยะ
- น้ำตกวชิรธาร
- น้ำตกสิริภูมิ
- น้ำตกห้วยทรายเหลือง
- น้ำตกสิริธาร นอกจากความสวยงามของน้ำตกแล้วที่นี่ยังเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์น้ำหลายชนิด รวมทั้งปลาหายาก เช่นปลาค้างคาว ป่าบริเวณนี้เป็นป่าเต็งรังผสมสนเขาและป่าดิบแล้ง นอกจากนั้นยังเป็นแหล่งสมุนไพรที่สำคัญอีกด้วย
- ยอดดอยอินทนนท์
- อ่างกาหลวง
- จุดชมทิวทัศน์อยู่ตรงกิโลเมตรที่ 41
- อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์
- น้ำตกแม่จอน
- ถ้ำตอง
- ถ้ำตุ๊ปู่
[แก้] ฤดูกาลท่องเที่ยว
- สำหรับใครที่คิดว่าอยากสัมผัสอากาศหนาวต้องเดินทางช่วงปลายปี สำหรับดอยอินทนนท์แล้วสามารถเดินทางไปเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะเป็นช่วงฤดูร้อน เดือน มีนาคม – พฤษภาคม แม้อากาศจะร้อนอบอ้าว แต่บนยอดดอยยังมีอากาศสดชื่นเย็นสบาย ท้องฟ้าสดใส มีน้ำตกน้อยใหญ่ที่มากที่สุดแห่งของประเทศไทยและมีชื่อเสียงเป็รนที่รู้จัก ของนักท่องเที่ยว อาทิเช่น น้ำตกแม่ยะ น้ำตกแม่กลาง น้ำตกวชิรธาร น้ำตกสิริภูมิ เป็นต้น ฤดูฝนเดือน มิถุนายน – กันยายน ฝนตกชุกเพิ่มความชุ่มชื้นให้ป่า ชมสายหมอกและละอองฝนที่เพิ่มความสวยงามผสมกลมกลืนกันอย่างน่าอัศจรรย์ ฤดูหนาวเดือน ตุลาคม – กุมภาพันธ์ อากาศค่อนข้างหนาวและฝนเริ่มลดน้อยลงและอากาศเย็นลงบ้าง และมีอากาศหนาวจัดที่สุดในช่วงเดือนมกราคม เป็นฤดูกาลที่นักท่องเที่ยวนิยมเที่ยวมากที่สุด เพราะสภาพภูมิอากาศหนาวเย็นท้องฟ้าแจ่มใส ตัดกับสีเขียวของป่าไม้ อากาศจะเย็นมากในตอนกลางคืน อุณหภูมิจะลดต่ำกว่า 0 องศา ถึง - 7 องศาเซลเซียส ในบางปี อุณหภูมิอาจติดลบ ทำให้เกิดคำข้างแข็งหรือแม่คะนิ้ง ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เป็นช่วงที่ได้รับความนิยมของนักท่องเที่ยว ตามแหล่งท่องเที่ยวน้ำตกบนยอดดอยอินทนนท์ เป็นที่ผ่อนคลายความร้อนได้เป็นอย่างดี สำหรับเมืองจอมทอง ปัจจุบันมีโรงแรม รีสอร์ทจำนวนมาก รองรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการมาพักผ่อนหย่อนใจ โดยเมืองจอมทองมีสิ่งอำนวยสะดวกครบคัน มีการพัฒนาทุกๆด้าน โดยจังหวัดเชียงใหม่ได้ผลักดันให้อำเภอจอมทอง เป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งมีแหล่งท่องเที่ยวในเมืองหลากหลาย เป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ จำนวนมาก [12]
[แก้] อ้างอิง
- ^ http://www.foxbee.com/article-detail/2769
- ^ http://www.thaitripdd.com/webboard/index.php?topic=1690.0
- ^ http://www.paknue.com/chiangmai/content.php?content_id=1
- ^ http://www.cm77.org/board/archiver/?tid-274.html
- ^ http://www.irrcm5.com/location4.php
- ^ http://www.chiangmainews.co.th/read.php?id=4706
- ^ http://www.baanmaha.com/community/thread30474.html
- ^ http://www.homesalechiangmai.com/planing.asp
- ^ http://www.publicconsultation.opm.go.th/phs/new_phs_proj_view.asp?editId=P521214011
- ^ http://www.lannafood.com/travel_city7.php
- ^ http://www.roomholidays.com/travel/thailand/chiangmai/chom_thong_info.htm
- ^ http://variety.eduzones.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น