วันอังคารที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2554

โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ Maharaj NaKorn Chiangmai Hospital


           วันนี้มาว่ากันด้วยโรงพยาบาลที่ใหญ่ที่สุดในเชียงใหม่กันเถอะ โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ หรือที่เรียกกันทั่วไปตามภาษาชาวบ้านว่าโรงบาลสวนดอก คาดว่าอาจเรียกชื่อตามวัดสวนดอกที่อยู่ใกล้ๆกันก็ได้ เพราะฉะนั้นใครไปโรงพยาบาลแล้วรอนานจนทนไม่ไหว แนะนำให้นั่งรถแดง(ใครไม่รู้จักไปดูที่หมวดขนส่งในเว็บนี้ได้) รพ.นี้เป็นรพ.รัฐที่มีหมอที่เก่งที่สุด หมอบางคนเก่งติดระดับประเทศเลยทีเดียว แต่ข้อเสียของโรงพยาบาลที่มีหมอเก่งที่สุดแห่งนี้คือ หมอดีแต่ระบบบริหารจัดการแย่  ที่บอกว่าแย่คือ ระบบอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวกับหมอหรือการรักษา เช่น ระบบบริหารจัดการภายในโรงพยาบาล ข้าพเจ้าบอกได้เลยว่าระบบการตรวจรักษาไม่มีปัญหาเลย แถมยังทันสมัยกว่ารพ.บางแห่งของกรุงเทพฯ อีกด้วย มีการแสกนประวัติการตรวจของคนไข้ซึ่งหมอสามารถดูได้จากในคอมพิวเตอร์ซึ่งสะดวกรวดเร็ว ไม่ต้องขนแฟ้มเป็นปึกๆ ข้ามตึกไปมาแบบ รพ.อื่นน่าจะดูเป็นตัวอย่างนะคะ ส่วนที่ไม่ควรเอาเป็นตัวอย่างคือ ระบบบริหารจัดการด้านสถานที่ ข้าพเจ้าไปตรวจโรค Depression ซึ่งจะต้องตรวจทุกๆ สามเดือนและรับยามารับประทาน จำได้ว่าที่นั่งไม่พอเพราะทุกคนไปออยืนรอรับยาที่หน้าห้องจ่ายยากันหมด ข้าพเจ้าเห็นหลายครั้งแล้วเหตุการณ์แบบนี้ ตั้งแต่สองสามปีที่แล้ว ไม่เคยปรับปรุงแล้ว แถมระบบบางอย่างก็ถอยหลังเข้าคลอง อย่างระบบลิฟท์รับส่งผู้โดยสาร ทุกคนต้องยืนรอคิวขึ้นลิฟ ยืนรอแถวยาวอย่างไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นไปได้ ขนาดรพ.ใหญ่ๆ ในกรุงเทพ รพ.รัฐ เช่น รพ.จุฬายังไม่ถึงกับต้องยืนรอแถวยาวขนาดนี้เลยทั้งที่ประชากรกรุงเทพฯมากกว่าเชียงใหม่ ประชาชนลำบากขนาดนี้แล้วผู้บริหารทำอะไรอยู่ หากต้องการจะสร้างลิฟใหม่เพื่อระบายผู้โดยสาร ข้าพเจ้าไม่ทราบว่ามีทางเชื่อมต่อระหว่างตึกสุจิณโณกับตึกศรีภัทหรือไม่ ถ้ามีทำไมไม่ติดป้ายบอก ระบายให้ไปขึ้นลิฟที่อื่นบ้าง ให้คนไข้ยืนรอขึ้นลิฟทำไมเยอะๆ(เกินไป)  จะเป็นไปได้ใหมที่สร้างลิฟท์ที่อื่นแล้วให้สร้างทางเดินเชื่อมต่อ ข้าพเจ้าเชื่อว่าผู้ใจบุญทุกคนยินดีบริจาคเงินเพื่ออำนวยความสะดวกตรงนี้ จะว่าที่ไม่พอ ข้าพเจ้าก็เห็นว่าทางรพ.ยังให้สัมปทานร้านค้าใน่ตึกรพ.ได้เลย แต่ข้าพเจ้าสงสัยจริงๆ ว่าคนไข้ยืนรอรับยาน่ะ ท่านไม่คิดจะแก้ปัญหาเลยหรือ อีกอย่างเรื่องที่จอดรถ ทางรพ.ไม่มีที่จอดรถเพียงพอจึงซื้อที่ใกล้ๆ ให้ชาวบ้านไปจอดรถแล้วอำนวยความสะดวกด้วยรถรับส่งซึ่งเป็นการแก้ปัญหาเบื้องต้นสำหรับที่จอดรถ(ถึงแม้จะไม่ดีที่สุดก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไรเลย) ต่อมีจึงมีการสร้างตึก(กำลังสร้างไม่รู้เสร็จหรือยัง) ทำให้ที่จอดรถบริเวณนำเต็มในช่วงเช้าซึ่งมีคนเข้ามารพ.กันมาก อุส่าห์ดีใจว่าคงสร้างตึกจอดรถหลายๆชั้นสำหรับบริการประชาชน ปรากฏว่าไม่ใช่ ท่านไปติดตามเอาเองว่าเป็นตึกอะไร รู้แต่ว่าที่จอดรถเดิมน่ะตอนไม่มีการก่อสร้างตอนเช้ารถก็จะเต็มอยู่แล้ว แล้วต่อไปจะให้ไปจอดรถที่ใหนหรือว่าจะให้ไปจอดในห้องคนไข้(ประชด) ข้าพเจ้าเห็นมีสนามบอลให้นศ.เล่นกีฬากันด้วยแต่ว่าเสียสละความสุขส่วนตัวเพื่อส่วนรวมไม่ได้หรือ(คงไม่ได้ถ้าได้ก็คงคิดทำที่จอดรถกันนานแล้ว) จริงๆ แล้วบ้านเมืองคงสงบสุข ถ้าทุกคนรู้จักแบ่งปันกันบ้าง ดูอย่างสถานที่ราชการสองสามที่ตรงข้ามกับรพ.สวนดอก ข้าพเจ้ามาทีไรก็เห็นว่ามีพื้นที่ว่าง โล่ง แถมเป็นร่มเงา เหมาะแก่การจอดรถ แต่คงหวง(ไม่รู้หวงไว้ทำอะไรจะเอาไว้ปลูกเห็ดก็ไม่ใช่) เพราะมียามเฝ้าห้ามรถที่ไม่ใช่รถผู้มาติดต่อเข้า แหม ถ้ามีน้ำใจแบ่งปันพื้นที่เพราะคิดว่าคนไข้ของรพ.สวนดอกก็เป็นเพื่อนมนุษย์เหมือนกัน ก็น่าจะให้เข้าไปจอดได้ แต่จัดระเบียบการจอดให้ดี ไม่ใช่ว่าจ้างยามมาก็ให้มานั่งบื้อคอยสกรีนรถเข้าอย่างเดียวว่าจะเป็นรถที่มาติดต่อสถานราชการนั้นๆ หรือเปล่า ข้าพเจ้ามาทีไรก็เห็นว่าง ไม่มีรถจอดสักคันแล้วคุณจะหวงที่ไว้ทำไม ทำไมคุณไม่กันไว้ล่ะว่าที่จอดรถผู้บริหาร เจ้าหน้าที่ นับไปสิกี่คน แล้วก็กันไว้สำหรับคนที่มาติดต่ออีกจำนวนหนึ่งกี่ที่ก็ว่าไปดูจากที่แล้วมาไม่เห็นจะมีรถผู้ติดต่อจอดเลย มีแต่สนามหญ้าที่ตัดอย่างสวยงามเป็นระเบียบดูโล่งๆ ใต้ต้นไม้ใหญ่(แหม เหมาะแก่การจอดรถจริงๆ พับผ่า)


สรุปแล้วคือรพ.นี้เป็นรพ.ที่มีหมอดีที่สุด แต่ระบบบริหารจัดการห่วยที่สุด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น