วันจันทร์ที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2554

ร้านอาหาร Good View

จริงๆ แล้ว ข้าพเจ้าก็ลืมไปแล้ว แต่พอดีจะผ่านไปแถวนั้นก็เลยนึกได้และก็ไม่อยากให้ใครตกเป็นเหยื่อของชื่อเสียงอันจอมปลอม  ข้าพเจ้าเองก็ไม่อยากเป็นคนเรื่องมากและไม่ใช่คนดิบดีอะไรทุกอย่าง  แต่เป็นคนที่ไม่ชอบอะไรที่ไม่เป็นธรรม มีคนหลายคนยอมให้ถูกเอาเปรียบหรือกระทำการที่ไม่ชอบ แต่ก็ทำเพียงนิ่งและอดทนแต่ข้าพเจ้าไม่ใช่คนอย่างนั้น  ข้าพเจ้ายอมรับว่าเป็นคนใจร้อนมาก และไม่ค่อยมีความอดทนถ้าถูกเอารัดเอาเปรียบหรือใครมาทำอะไรที่ข้าพเจ้าคิดว่าไม่ถูกต้อง ใครๆ ก็เลยมองว่าข้าพเจ้าเรื่องมาก ชอบเถียง ชอบความรุนแรง แต่ถ้าไม่มีคนอย่างข้าพเจ้าแล้วคนที่เขาทำผิดเขาจะรู้ตัวหรือเปล่าว่าเขาทำผิด เขาก็ยังคงทำผิดอยู่เรื่อยไปไม่มีการปรับปรุงตัว ขนาดข้าพเจ้าใจร้อนข้าพเจ้ายังยอมรับเลยว่าใจร้อน เพราะรู้ว่ามันเป็นข้อเสียและพยายามปรับปรุงตัวอยู่ตลอดแต่จะได้แค่ใหนก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง อย่างน้อยข้าพเจ้าก็รู้ตัวและพยายามทำให้มันดีขึ้น 

ข้าพเจ้ารู้จัก Good View ถ้าเทียบก็ตอนเป็นนักเรียนปีหนึ่งปีสอง(สักสิบปี)ได้กระมัง เป็นสถานที่ที่วัยรุ่นชอบไปนั่งกัน ข้าพเจ้าได้ยินใครๆ ก็พูดถึงกัน  ทำให้ข้าพเจ้าอยากไปเยือนสักครั้ง แต่ข้าพเจ้าเป็นเด็กเรียนแถมพ่อก็เข้มงวดมาก  ก็เลยไม่ได้ออกไปเที่ยวกลางคืนอย่างใครเขา(ก็ดีนะ ทำให้ข้าพเจ้าได้ดิบได้ดีอย่างทุกวันนี้ไม่งั้นคงมีลูกสองสามคน เกาะสามีกินไปแล้ว เอ๊ะหรือว่าดีน๊า ไม่ต้องทำงานก็มีเงินใช้ 55) แถมก็ยังเคยอ่านนิตยสารที่จัดการร้านนี้เคยให้สัมภาษณ์ว่า ร้านนี้เป็นร้านที่มีชื่อเสียงใครๆมีเพื่อนมาเที่ยวเชียงใหม่ก็จะพามาร้านนี้ ร้านนี้จะเต็มตลอด ขนาดจะนั่งยังต้องจอง ข้าพเจ้าก็สงสัยว่าทำไม แล้วข้าพเจ้าก็ได้ไปเมื่อต้นปีมานี้เอง พอไปก็เลยรู้ว่าทำไมร้านถึงเป็นที่นิยม  ก็ร้านนี้เป็นร้านใหญ่ริมน้ำปิง เป็นที่สังสรรค์ ข้าพเจ้าก็มองไปรอบๆ จึงรู้ว่า คนส่วนใหญ่จะไปกับกลุ่มเพื่อน ที่เป็นคนต่างชาติเป็นส่วนใหญ่ และเป็นวัยรุ่นเกือบทั้งหมด ผู้ชายก็ผู้ชายทั้งโต๊ะ ผู้หญิงก็ผู้หญิงทั้งโต๊ะ  จึงรู้ว่าน่าจะเป็นที่เหล่กันซะมากกว่า ข้าพเจ้าไปตอนเย็นเนื่องจากกลับบ้านดึกไม่ได้(สามสิบกว่าแล้วพ่อก็ยังห้ามกลับดึก!) ข้าพเจ้าสั่งอาหารมาทานไม่อร่อยสักจาน อาจเพราะเป็นรสชาติแบบฝรั่ง แต่อย่างไรก็ตามอาหารพื้นๆ อย่างแกงจืดสาหร่าย ยังทำไม่ได้เรื่องแล้วจะไปนับอะไรกับอาหารที่ทำยาก ที่บอกว่าไม่ได้เรื่องคือเอาน้ำใส่ลงไปในสาหร่ายและหมูสับก้อนกับเต้าหู้ไข่ ทุกอย่างเย็นเหมือนเพิ่งเอามาละลายน้ำแข็งหรือถ้าไม่ละลายน้ำแข็งก็คงกะให้ทุกอย่างร้อนเองจากเตาที่ยกมา! แต่ไฟมันอ่อนมากน่ะ ยังไงมันก็ไม่เดือด ก็เลยกลายเป็นแกงชืดแทนที่จะเป็นแกงจืด  ข้าพเจ้านั่งทานข้าวนั่งไปตบยุงไป แถมเพลงก็ดังหนวกหู ทานข้าวไปตกกะใจไป ดังนั้นจึงแนะนำว่าถ้าจะทานอาหารเหนือ อาหารไทย ของกินเล่น ฯลฯ ให้ไปทานที่อื่นเถอะ นอกจากท่านจะไปเหล่สาวและก็ดื่มเหล้าแกล้มถั่วลิสงก็แนะนำเพราะถั่วทอดไม่ต้องตั้งใจทำมากก็กินได้ แต่ก็ไม่ได้เรื่องอยู่ดีเพราะข้าพเจ้าเองเคยลองไปคลับหลายที่เหมือนกัน(เพื่อนชอบไปก็เลยไปแม้จะไม่ชอบ) คลับหลายที่ก็ยังเต้นได้แต่ที่นี่เปิดเพลงดัง เมากรึ่มแล้วลุกขึ้นเต้นเห็นจะไม่เหมาะแน่ เพราะมันมีสภาพเป็นร้านอาหาร แหมถ้าจะทำเป็นคลับก็ทำไปให้มันรู้แล้วรู้รอดไป) ถ้าจะหาที่กินข้าว แนะนำให้ไปร้านเฮือนโบราณซึ่งอยู่ถนนเส้นเดียวกันค่อนไปทางใต้ แต่เรียกว่าถนนเชียงใหม่ลำพูน เพราะบรรยากาศเบาๆ นักดนตรีเล่นดนตรีบนพื้น อาหารก็อร่อย(เมื่อสิบปีที่แล้วนะ) ข้าพเจ้าขับรถผ่านเมื่อวานก็ยังมีอยู่ แต่ไม่เคยโปรโมท ไม่เคยลงนิตยสารเท่านั้น ถ้าจะพาเพื่อนต่างถิ่นมาทานข้าวก็อย่าพาไปกู๊ดวิวละกัน เดี๋ยวจะเสียความรู้สึกแบบข้าพเจ้าตอนไปเหยียบกู๊ดวิวครั้งที่สอง
                พี่ที่ทำงานของข้าพเจ้ามีแฟนเป็นคนต่างชาติแล้วนัดน้องๆในออฟฟิศไปทานข้าว เป็นร้านที่ชาวต่างชาติผู้นี้กำหนดมา ทุกคนก็เข้าใจกันว่าเป็นกู๊ดวิวเราก็เลยเข้าไปในร้าน ร้านแน่นไปหมดเพราะเขาเอาบาร์เหล้ามาไว้ข้างหน้า ฝรั่งนั่งดื่มกันเต็ม  พวกเรายืนเก้ๆ กังๆ อยู่ก็ไม่มีพนักงานต้อนรับคนใหนมาพาไปหาที่นั่ง ข้าพเจ้าเหลืออดก็เลยเดินไปถามพนักงานที่บาร์ พนักงานก็บอกพนักงานต้อนรับๆมองหัวจรดเท้าแล้วก็ชี้ให้เดินเข้าไปแล้วขึ้นไปชั้นบนแบบมะนาวไม่มีน้ำ พวกเราก็เลยเดินเข้าไปแบบงงๆ เพราะไม่รู้ว่าไอ้บันไดชั้นสองน่ะมันอยู่ตรงไหน ข้าพเจ้าก็เลยกลับไปถามอีก ก็เลยรู้ว่าอยู่ตรงไหน เราขึ้นไปแบบงงๆ นั่งที่โต๊ะ พอเห็นพนักงานก็เรียกเพื่อสั่งอาหาร นานมากก็ไม่ได้ยินเสียงตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก ข้าพเจ้าโมโหก็เลยขอคุยกับผู้จัดการเพราะพวกเราไม่ชอบที่ถูกมองอย่างดูถูก(เป็นครั้งแรกที่ข้าพเจ้าใจเย็นและไม่เสียงดัง และเป็นครั้งแรกที่เพื่อนๆ ไม่ด่าข้าพเจ้าเพราะทุกคนก็ไม่พอใจ) เล่าอย่างสรุป ผู้จัดการมาขอโทษและถามว่าคนใหนข้าพเจ้าจำไม่ได้ ผู้จัดการก็เลยบอกว่าพนักงานมีมากควบคุมไม่ได้หมดทุกคนหรอก! คุยกันตั้งนานอาหารก็ยังไม่มา(โชคดีที่ไม่มา) ก็เลยจ่ายแต่ค่าน้ำแล้วออกไป(เพราะแฟนพี่ที่ทำงานโทรมาบอกว่าผิดร้าน) ปรากฏว่าเป็นอีกร้านที่เปิดเพลงแจ๊สเบาๆ ถึงอาหารจะเป็นอาหารฝรั่งและแพงกว่านิดหน่อย แต่พนักงานต้อนรับไม่เห็นมองเราหัวจรดเท้าแบบกู๊ดวิวเลยนี่  ลืมบอกไปว่าข้าพเจ้าสังเกตว่ากู๊ดวิวมีแต่ฝรั่งนั่งดื่มเต็มไปหมด  น่าจะเปลี่ยนเป็นบาร์ฝรั่งแทนนะ ข้าพเจ้าเกลียดนักพวกสองมาตรฐานเนี่ย
            ชื่อเสียงบางครั้งก็มีได้ง่ายแต่รักษาไว้ให้ดีเหมือนเดิมน่ะยากกว่า แล้วคนเราก็มักจะเหลิงเวลาที่เรามีชื่อเสียงแต่มักจะลืมไปว่าชื่อเสียงสามารถเสื่อมไปตามกาลเวลา วันนี้คนอาจจะเยอะ แต่ถ้าเจออย่างข้าพเจ้าบ่อยๆ เข้า แล้วสักวันจะเป็นอย่างไรคิดดูเอาเองอ่ะบอกให้ก็ได้บาร์ไง หุหุ
            อ้อลืมไป เดี๋ยวตกเป็นเหยื่อเรื่องที่จอดรถอีก จะขอเตือนไว้ว่าไปจอดรถน่ะ ต้องเสียค่าที่จอดรถด้วยนะ ห้าสิบบาท แล้วเขาก็จะออกตั๋วแลกเครื่องดื่มให้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น